วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บันทึการเรียน
ครั้งที่ 3
 วันพุธที่ 25 มกราคม 2560 เวลา 12.30 - 15.30



ความรู้ที่ได้รับ 

บทบาทหน้าที่ของผู้บริหาร
  ความหมายและประเภทของผู้นำ
            ผู้นำ (Leader) หมายถึง บุคคลที่มีศิลป บุคลิกภาพ ความสามารถ เหนือบุคคลทั่วไป
ประเภทของผู้นำ 
1. ผู้นำตามอำนาจหน้าที่ เป็นผู้นำโดยอาศัยอำนาจหน้าที่ (Authority)
1.1  ผู้นำแบบใช้พระเดช  (Legal Leadership) ผู้นำแบบนี้เป็นผู้นำที่ได้อำนาจในการปกครองบังคับบัญชาตามกฎหมายมีอำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ราชการมา
1.2    ผู้นำแบบใช้พระคุณ  (Charismatic Leadership) ผู้นำที่ได้อำนาจเกิดขึ้นจากบุคลิกภาพอันเป็นคุณสมบัติส่วนตัวของผู้นั้น มิใช่อำนาจที่เกิดขึ้นจากตำแหน่งหน้าที่
  ผู้นำแบบพ่อพระ  (Symbolic Leadership) ผู้นำที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายมิได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการปกครองบังคับบัญชา
2.  ผู้นำตามการใช้อำนาจ 
      2.1 ผู้นำแบบเผด็จการ   (Autocratic Leadership) หรือ อัตนิยม คือใช้อำนาจต่าง ๆ ที่มีอยู่ในการสั่งการแบบเผด็จการ
2.2  ผู้นำแบบเสรีนิยม (Laisser-Faire Leadership) หรือ Free-rein Leadership ผู้นำแบบนี้เกือบไม่มีลักษณะเป็นผู้นำเหลืออยู่เลย คือ ปล่อยให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำ
2.3  ผู้นำแบบประชาธิปไตย (Democratic Leadership) ผู้นำแบบนี้ เป็นผู้นำที่ประมวลเอาความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากคณะบุคคลที่อยู่ใต้บังคับบัญชาที่มาประชุมร่วมกัน
3.  ผู้นำตามบทบาทที่แสดงออก 
จำแนกเป็น  3 แบบ คือ
3.1  ผู้นำแบบบิดา-มารดา
3.2  ผู้นำแบบนักการเมือง  (Manipulater Leadership)
3.3  ผู้นำแบบผู้เชี่ยวชาญ  (Expert Leadership)
ภาวะผู้นำ กระบวนการหรือพฤติกรรมการใช้อิทธิพลเพื่อควบคุม สั่งการ เกลี้ยกล่อม จูงใจ ให้ผู้ตามหรือกลุ่ม ปฏิบัติตามเพื่อการบรรลุ
1.           ผู้นำโดยกำเนิด 2. ผู้นำที่มีความอัจฉริยะ 3. ผู้นำที่เกิดขึ้นตามสายงานบริหาร 4.  ผู้นำตามสถานการณ์
ผู้บริหารแบ่งออกเป็น ประเภท คือ
1.  ผู้บริหารทำหน้าที่สั่งการ  (Line Manager)
            2.  ผู้บริหารทำหน้าที่ให้คำแนะนำ  (Staff  Manager)
            3.  ผู้บริหารทำหน้าที่สั่งการเฉพาะด้าน  (Functional Manager)
            4.  ผู้บริหารทั่วไป  (General Manager)
            5.  ผู้บริหาร (Administrator)
ระบบการบริหารแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
                    1. ระบบเปิด  (Open system) เป็นองค์การซึ่งดำเนินภายในและมีการปฏิสัมพัทธ์ (interacts) กับสภาวะแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก วิธีการบริหารงานอย่างอย่างมีระบบนั้นประกอบไปด้วย ปัจจัยจากสภาวะแวดล้อมภายนอกและจากการเรียกร้องขบวนการแปลงสภาพ ระบบการติดต่อสื่อสาร
                   2.   ระบบปิด  (Closed System) เป็นระบบที่ไม่ต้องการอิทธิพลใด ๆ จากภายนอกและไม่ได้เกี่ยวข้องกับสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ธุรกิจมักจะมองแต่ภายในองค์การของตนเองมากกว่าท่าจะสนใจกับสภาพแวดล้อม รอบ ๆ ตัวธุรกิจไม่ว่าจะเป็นลูกค้า รสนิยมผู้บริโภค สภาพการณ์ของตลาด ฯลฯ


กิจกรรม
ให้นักศึกษาออกมานำเสนอคำคม 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น